Skip to main content

‘บิ๊กป้อม’ ย้ำ ‘ก.แรงงาน’ ต้องสร้างการรับรู้ นำเข้าแรงงานอย่างถูกต้องตาม MOU

รายละเอียดเนื้อหา

รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยหลักในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบริหารจัดการด้านแรงงานต่างด้าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างการรับรู้ให้นายจ้างนำเข้าแรงงานอย่างถูกต้องตามบันทึกข้อตกลง




Preview

Download Images 

 

       พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) ครั้งที่ 1/2560 โดยมี พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมดังกล่าว ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน วันนี้ (16 ม.ค. 2560) โดยที่ประชุมมีเรื่องเน้นย้ำ 2 ประการ ได้แก่ 1) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และตามแนวทางที่คณะกรรมการได้เห็นชอบ ให้กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยหลักในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบริหารจัดการด้านแรงงานต่างด้าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 2) การขยายระยะ  เวลาการอยู่ในราชอาณาจักรและการทำงานของแรงงานในกิจการประมงทะเล และแรงงานในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ เป็นการดำเนินการกับแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่เคยทำงานในประเทศไทยให้ทำงานต่อไปได้ โดยไม่ใช่แรงงานต่างด้าวรายใหม่ ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงดำเนินการตรวจสอบ ปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีกับนายจ้าง ผู้นำพาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย อย่างเคร่งคัด แล้วประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้นายจ้างที่มีความต้องการแรงงาน ให้นำเข้าแรงงานอย่างถูกต้องตามบันทึกข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันมีกฎหมายเฉพาะที่กำหนดการควบคุม ตรวจสอบ ป้องกันการหลอกลวงจากนายหน้า และการกำหนดอัตราค่าบริการจากบริษัทนำเข้าแรงงานอย่างเหมาะสม”

          พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวระหว่างการประชุมว่า “ภายใน ปี 2560 จะเร่งการตรวจสัญชาติแรงงานต่างด้าวและกำหนดมาตรการเพื่อจะทำให้ กัมพูชา ลาว และเมียนมา    ให้ความร่วมมือมากยิ่งขึ้น ส่วนการจัดที่พักอาศัย หรือ จัดโซนนิ่งให้แรงงานต่างด้าว ได้มีหน่วยงานเอกชนหลายรายให้ความสนใจ ที่จะเข้ามาทำโครงการร่วมกับกระทรวงแรงงาน และการจัดทำแผนเพื่อรองรับและทดแทนแรงงานต่างด้าวที่ได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในประเทศและสามารถทำงานได้ จำนวน 1.2 ล้านคน ที่จะครบกำหนด อนุญาตในวันที่ 31 มีนาคม 2561 ซึ่งเรื่องทั้งหมดที่กล่าวมาทางกระทรวงแรงงาน จะนำไปจัดทำเป็น Action Plan เพื่อรองรับและให้มีผลในทางปฏิบัติต่อไป”
          นายสิงหเดช ชูอำนาจ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ที่ประชุมได้พิจารณาปัญหาการตรวจสัญชาติของแรงงานในกิจการประมงที่ใบอนุญาตทำงานจะหมดอายุในวันที่ 31 มกราคม 2560 และแรงงานในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ ที่ใบอนุญาตทำงานจะหมดลงในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและการอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว ในกิจการประมงทะเลและแรงงานในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำที่เป็นแรงงานคนเดิมออกไปถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เพื่อให้สอดคล้องกับการตรวจสัญชาติของประเทศต้นทางด้วย”
          ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
 
+++++++++++++++++++
 
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์/ปริยรณ พรหมสาขา ณ สกลนคร ข่าว/สมภพ ศีลบุตร ภาพ
/ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการจัดหางาน ข้อมูล/16 มกราคม 2560
 

 

TOP