ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดสัมมนาระดับชาติว่าด้วยการสร้างแรงงานทักษะฝีมือเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบฯ

วันที่ 21 มิถุนายน 2567 เวลา 08.30 น. นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมสัมมนาระดับชาติว่าด้วยการสร้างแรงงานทักษะฝีมือเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบในภาคอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ประเทศไทย โดยมี คุณเสี่ยวเยี่ยน เฉียน ผู้อำนวยการสำนักงานแรงงานระหว่างประเทศประจำประเทศไทย กัมพูชา และ สปป. ลาว คุณกิเซม คาร์สลี ผู้จัดการโครงการพัฒนาฝีมือแรงงานและการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อการเปลี่ยนผ่าน และผู้แทนจาก ILO หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วม ณ โรงแรมอมารี กรุงเทพฯ

นายสมาสภ์ กล่าวว่า ผมรู้สึกยินดีและเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับมอบหมายจากท่านปลัดกระทรวงแรงงานให้มาปฏิบัติหน้าที่แทนในการกล่าวเปิดการประชุมสัมมนาระดับชาติว่าด้วยการสร้างแรงงานทักษะฝีมือเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบในภาคอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ประเทศไทยในวันนี้ ซึ่งการประชุมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นภายใต้โครงการพัฒนาฝีมือแรงงานและการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อการเปลี่ยนผ่าน หรือโครงการ SKILLS โดยโครงการนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น และที่มีเป้าหมายในการเสริมสร้างโอกาสในการยกระดับทรัพยากรมนุษย์ งานที่มีคุณค่า และการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะด้านดิจิทัล รวมถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจและสังคมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เคารพสิทธิมนุษยชน และยั่งยืนสำหรับทุกคน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน

นายสมาสภ์ กล่าวต่อ ผมขอขอบคุณ องค์การแรงงานระหว่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานผ่านการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบบนพื้นฐานของหลักสิทธิมนุษยชนและงานที่มีคุณค่า รวมถึงการสนับสนุนและมีส่วนร่วมในการฝึกอบรมของกระทรวงแรงงาน เพื่อให้แรงงานไทยในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ได้มีทักษะที่จำเป็นรองรับการเปลี่ยนผ่านในอนาคต นอกจากนี้ ผมขอขอบคุณผู้เข้าร่วมการประชุมทุกท่านที่เล็งเห็นถึงความสำคัญและสละเวลาอันมีค่า เพื่อเข้าร่วมการประชุมฯ ในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลลัพธ์จากการประชุมฯ จะเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมในการดำเนินโครงการ และบรรลุเจตนารมณ์สูงสุดของทุกฝ่าย ตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป