วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 เวลา 13.30 น. นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินโครงการว่าด้วยห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ (ประเทศไทย) ครั้งที่ 1 โดยมี คุณเสี่ยวเยี่ยน เฉียน ผู้อํานวยการสํานักงานแรงงานระหว่างประเทศ ประจําประเทศไทย กัมพูชา และ สปป. ลาว เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และกล่าวภาพรวมโครงการ นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม ณ ห้องดวงกมล ชั้น 2 โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพมหานคร
นายไพโรจน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองสิทธิแรงงานและการพัฒนาฝีมือแรงงานในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นภารกิจหลักภายใต้พันธกิจและนโยบายของกระทรวง โดยภาคอุตสาหกรรมยานยนต์มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในฐานะที่ประเทศไทยเป็นผู้นำในด้านการผลิตและส่งออกยานยนต์ของภูมิภาคอาเซียน
และเป็นลำดับที่ 10 ของโลก ผลกระทบจากโรคโควิด – 19 ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่รัฐบาลต้องส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น ครอบคลุม และยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับประเด็นสิทธิแรงงาน สิทธิมนุษยชน การสร้างงานที่มีคุณค่า และการยกระดับฝีมือแรงงานที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานได้พยายามอย่างต่อเนื่องที่จะดูแลแรงงานทุกภาคส่วนให้ได้รับสิทธิและความคุ้มครองด้านแรงงานอย่างเท่าเทียม สนับสนุนงานที่มีคุณค่าให้แรงงานมีอาชีพและได้รับรายได้ที่เหมาะสม ตลอดจนการพัฒนาฝีมือแรงงานให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านโดยกระทรวงแรงงานขอยืนยันความมุ่งมั่นที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ผ่านการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายต่อไป
“ผมขอใช้โอกาสนี้ ในการกล่าวขอบคุณรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการโครงการของ ILO จำนวน 2 โครงการ ภายใต้โครงการว่าด้วยห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ (ประเทศไทย) ได้แก่ โครงการห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น ครอบคลุม และยั่งยืนแห่งเอเชีย หรือโครงการ RISSC (ริส) เป็นระยะเวลา 3 ปี ระหว่างเดือนกันยายน 2565 – กันยายน 2568 และโครงการพัฒนาฝีมือแรงงานและการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อการเปลี่ยนผ่าน หรือโครงการ SKILLS (สกิล) เป็นระยะเวลา 2 ปี ระหว่างเดือนเมษายน 2566 – มีนาคม 2568 ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลการดำเนินโครงการทั้ง 2 โครงการอย่างใกล้ชิด โดยผมและกระทรวงแรงงาน ยินดีที่ได้มีส่วนร่วม และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานให้มีความยืดหยุ่น ครอบคลุม และยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาฝีมือแรงงานตามแนวทางของการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ และการทำงานที่มีคุณค่า เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย” นายไพโรจน์ กล่าวในท้ายที่สุด
สำหรับการประชุมคณะกรรมการฯ ในครั้งนี้ จะเป็นการประชุมคณะกรรมการครั้งแรก ซึ่งทางโครงการจะได้มานำเสนอความเป็นมาและภาพรวมของโครงการ รวมถึงการดำเนินการที่ผ่านมาให้ผู้เข้าประชุมทุกคนทราบในวาระที่ 2 และ 3 และร่วมกันพิจารณาร่างแผนการดำเนินงานประจำปี 2567 ในวาระที่ 4 โดยจะมีการจะเปิดเวทีให้แสดงความคิดเห็นและขอความเห็นชอบที่ประชุมในการดำเนินการตามร่างแผนฯ ดังกล่าวต่อไป
+++++++++++++++++++
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
