วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 น. นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการกระทรวงแรงงานร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้ใสสะอาด ปราศจากการทุจริต (Zero Tolerance & Clean Thailand) โดยมี นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นางนภสร ทุ่งสุกใส ที่ปรึกษาวิชาการแรงงาน เรือเอกสาโรจน์ คมคาย ที่ปรึกษากฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม นางสาวกรจิรัฏฐ์ พงจันทร์ศธร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวรายงาน ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน
นายไพโรจน์ กล่าวว่า รัฐบาลมีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐที่ยึดหลัก “ภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม” ปรับวัฒนธรรมการทำงานให้มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ส่วนรวม มีความทันสมัย และพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา รวมทั้ง เปิดกว้าง เชื่อมโยงถึงกันและเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็วและโปร่งใส โดยทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันปลูกฝังค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริต ความมัธยัสถ์ และสร้างจิตสำนึกในการปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างสิ้นเชิง
กระทรวงแรงงานในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ต้องขับเคลื่อนเป้าหมายดังกล่าวให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม โดยใช้คุณธรรมนำการพัฒนา ด้วยการเสริมสร้างจริยธรรมและวินัย พร้อมทั้งหล่อหลอมบุคลากรให้มีความตระหนักรู้ถึงภารกิจหน้าที่ สามารถปรับเปลี่ยนรองรับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่ส่งผลกระทบต่อการกระทำทุจริต รวมถึงรู้เท่าทันเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสนับสนุนการป้องกันการทุจริต เพื่อการให้บริการประชาชนตั้งอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และถูกต้องตามระเบียบที่กำหนด โดยยึดหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) รวมถึงการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องสามารถขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงแรงงานได้สัมฤทธิ์ผล และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง อีกทั้ง กระทรวงแรงงานยังเน้นย้ำการสร้างวัฒนธรรมองค์กรปลุกจิตสำนึก สร้างทัศนคติ และค่านิยมที่ดี ในการส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ มีจิตสำนึกในการปฏิเสธการรับของขวัญและของกำนัลทุกชนิด ในก่อน/ขณะ/หลังปฏิบัติหน้าที่ (No Gift Policy) ที่จะส่งผลให้เกิดการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในปัจจุบันและอนาคต
“ผมหวังว่าการอบรมในวันนี้ จะนำพาให้บุคลากรของกระทรวงแรงงานเกิดการตระหนักรู้และต่อต้านกับการทุจริตในทุกรูปแบบ สามารถเปิดมุมมองกรอบในการแก้ปัญหาการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีภาพลักษณ์ในการดำเนินงานที่มีคุณธรรมและความโปร่งใส” นายไพโรจน์ กล่าวในท้ายที่สุด
On February 13, 2024, at 09.00 hours, the Permanent Secretary of Labour, Mr. Phairoj Chotikasatian, chaired the opening ceremony of the Ministry of Labour’s Zero Tolerance & Clean Thailand project. The Deputy Permanent Secretary of Labour, Mr. Wannarat Srisuksai, the Ministry of Labour’s Inspector-General, Mr. Samat Pattamasukon, the Academic Labour Advisor, Mrs. Napasorn Toongsooksai, Legal Advisor to the Office of the Permanent Secretary of Labour, Lieutenant Saroj Komkhai, and the Ministry of Labour’s executives joined the occasion. The Assistant to the Permanent Secretary of Labour, Ms. Kornjirat Pongjansat, gave a report at the Ministry of Labour’s meeting room, 5th floor, Ministry of Labour.
Mr. Phairoj said that the government has important development goals to transform the public sector based on the principle that “the public sector of the people is for the people and public benefit”. It aims to adjust the work culture to focus on results and public benefit, to be more modern and prepared to adapt to the changes in the world at all times. It also strives to be open and connected and provide opportunities for all sectors to participate in order to conveniently meet the needs of the people and provide fast and transparent services. To achieve this, all sectors in society must work together to teach the values of honesty and economy and create awareness of refusing to accept corruption and misconduct.
The Ministry of Labour, as a government agency, must drive this goal to achieve concrete results using morality to lead development. It must strengthen ethics and discipline, as well as mold personnel to have awareness of their missions and duties that can be adjusted to support the changing trends of the world that affect corruption acts. The personnel must be equipped with knowledge about technology and innovation to support corruption prevention and to provide public services based on morality, ethics, honesty, integrity, and accuracy, according to the specified regulations. It can achieve this by adhering to the principles of good governance, including the Sufficiency Economy Philosophy as a guideline for working properly. It can drive the Ministry of Labour’s mission to success, to truly benefit the people. Moreover, the Ministry of Labour also emphasizes creating organizational culture, raising awareness, and creating good attitudes and values in promoting government officials to be conscious of refusing to accept gifts and presents of any kind before/while/after performing duties (No Gift Policy), that will result in zero corruption and misconduct, both now and in the future.
“I hope that today’s training will support the Ministry of Labour’s personnel in becoming aware of and opposing corruption in all forms, having the ability to start a framework for solving corruption issues effectively. This will result in the Ministry of Labour being an agency that provides services to the people more efficiently and has an image of operating with ethics and transparency,” concluded Mr. Phairoj.
+++++++++++++++++++
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์/Division of Public Relations