เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล ณ ห้องประชุมพนมเบญจา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกระบี่ โดยมี นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงและหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ก่อนการประชุมมีแกนนำอาสาสมัครแรงงานระดับตำบลจังหวัดกระบี่ร่วมให้การต้อนรับและมอบของที่ระลึกแก่ รมว.แรงงาน โดยนายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และท่านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนและผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อการจ้างงาน โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่และจังหวัดฝั่งอันดามัน ขณะนี้ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการร้านค้า ร้านอาหารและที่พักเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ภายหลังรัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก กระทรวงแรงงานเองมีโครงการสำคัญๆหลายโครงการที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ อาทิ การส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจSMEs ที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กิจการเดินหน้าต่อไปได้ การพัฒนาศักยภาพแรงงานทั้ง Up skill และ Re skill เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยและวิกฤตเศรษฐกิจ ให้มีงานทำ มีรายได้ รองรับการประกอบอาชีพในอนาคตเป็นต้น
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวถือเป็นแป้นพิมพ์เงินหลักสำคัญของประเทศ ในขณะนี้กระทรวงแรงงานมีโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจการท่องเที่ยวและประเทศไทย จากข้อมูลพบว่าอัตราการจ้างงาน 6 จว. ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากสถานการณ์โควิดถึง 115,075 ราย ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา มีนายจ้างเข้าร่วมโครงการ 5,711 ราย เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 900 กว่าล้านบาท แต่ยังมีนายจ้างอีกบางส่วนที่ยังไม่เข้าโครงการ จึงขอให้เร่งรัดการดำเนินการ สร้างความเข้าใจ และบูรณาการกับหน่วยงานในกระทรวงแรงงาน ระยะต่อไปอาจจะมีการขยายกำหนดระยะเวลาและพิจารณาคุณสมบัติของสถานประกอบการเพิ่มเติม ส่วนแป้นพิมพ์เงินด้านการส่งออกในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานได้มีนโยบายสำคัญที่รองรับ เช่น โครงการFactory sandbox ซึ่งได้รับความชื่นชมจากนักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างมาก การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เห็นชอบแนวทางการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตาม MOU ให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อม ปัญหาการค้ามนุษย์ เร่งรัดการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายพร้อมทั้งบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การใช้ข้อมูลด้านเศรษฐกิจแรงงานในการวิเคราะห์การทำงานประกอบนโยบายของรัฐบาล โดยต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกกรม (big data)
“ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านและขอให้เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถนำพาพี่น้องแรงงาน รวมทั้งบุคลากรของกระทรวงแรงงานทุกท่านก้าวผ่านวิกฤตในครั้งนี้ ขอให้ทุกท่านร่วมกันพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลที่เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด
สำหรับสถานการณ์ด้านแรงงานจังหวัดกระบี่ มีกำลังแรงงาน 215,501 คน เป็นผู้มีงานทำ207,222 คน ผู้ว่างงาน 8,279 คน สถานประกอบการ 3,816 แห่ง แรงงานในสถานประกอบการ43,223 คน แรงงานนอกระบบ 119,205 คน แรงงานต่างด้าว 13,465 คน มีสถานประกอบการในระบบประกันสังคม 2,735 แห่ง ผู้ประกันตน 78,993 คน อาสาสมัครแรงงาน 53 คน ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีสถานประกอบการเลิกจ้าง ปิดกิจการ 20 แห่ง ลูกจ้าง 447 คนสถานประกอบการหยุดกิจการชั่วคราวตามมาตรา 75 จำนวน 8 แห่ง ลูกจ้าง 998 คน สถานประกอบการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs จำนวน 554 แห่ง ลูกจ้าง 8,120 คน
+++++++++++++++++++
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
16 พฤศจิกายน 2564