นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกล่าวอวยพรเนื่องในโอกาสวาระขึ้นปีใหม่พุทธศักราช 2565 แก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงแรงงานผ่านระบบ Video Conference และ ระบบ Zoom ณ ห้องประชุม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน ไปยังสำนักงานแรงงานในต่างประเทศ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในส่วนภูมิภาคและส่วนกลางทั่วประเทศ โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องประชุม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงานโดย นายสุชาติ กล่าวว่า ผมขอขอบคุณผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานทุกท่าน ในโอกาสปี 2564 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป เป็นปีที่ทั่วโลกและประเทศไทยอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งผมได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกท่านในการทำงานเพื่อช่วยเหลือพี่น้องแรงงานและผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยดำเนินมาตรการด้านระบบสาธารณสุขควบคู่ไปกับการรักษาระบบเศรษฐกิจ ทำให้นานาประเทศมีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของรัฐบาลไทยในการรักษาการจ้างงานเพื่อให้ภาคธุรกิจการค้า การลงทุน เดินหน้าต่อไปได้ โดยเฉพาะภาคธุรกิจส่งออกของประเทศมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และท่านรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้กำหนดกรอบยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและส่งเสริมทรัพยากรมนุษย์ โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัยมีงานทำสำหรับทิศทางในการทำงานต่อไปของกระทรวงแรงงานนั้น ผมได้กำหนดนโยบายในการบริหารราชการภายใต้แนวคิด “สืบสาน รักษา ต่อยอด MOL ฟื้นฟู พลิกโฉม ตลาดแรงงานไทย” นโยบายนี้ในภาพรวมจะให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพ เตรียมความพร้อมสำหรับการรองรับเศรษฐกิจใหม่
“ผมมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับกระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ กระตุ้นการจ้างงานตามความต้องการในระบบเศรษฐกิจใหม่ทั้งในและต่างประเทศ บริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบ รวมทั้งเร่งรัด ปรับปรุง แก้ไขกฎหมายต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ เกิดจากความร่วมมือร่วมใจกันของทุกภาคส่วน ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง เครือข่ายด้านแรงงาน และประชาชนทั่วไป พร้อมนี้ ขอให้เชื่อมั่นว่ากระทรวงแรงงานจะบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนภารกิจด้านแรงงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและประเทศชาติสืบไป”นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด
+++++++++++++++++++
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
30 ธันวาคม 2564