นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่นายเซีย จำปาทอง ส.ส.พรรคประชาชน ตั้งคำถามว่าเหตุใดนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงไม่ไปตอบกระทู้สดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 ม.ค.68 โดยไม่ได้ติดภารกิจสำคัญ ว่า นายเซียเป็นถึงผู้แทนประชาชน แต่ไม่ทำการบ้าน ไม่ศึกษาหาข้อมูลที่ถูกต้องรอบด้าน ถือว่าไม่มีคุณภาพ จ้องแต่พูดให้ผู้อื่นเสียหาย เพราะในวันนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมีภารกิจโครงการกระทรวงแรงงานพบประชาชน และสร้างการรับรู้ประกันสังคมมาตรา 40 สู่แรงงานอิสระที่ จ.พัทลุง ซึ่งเป็นภารกิจที่นัดหมายไว้ล่วงหน้า และได้ทำหนังสือแจ้งไปยังเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอเลื่อนการตอบกระทู้สดออกไปก่อนแล้ว ยืนยันว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับการตอบกระทู้ของสภาเป็นที่สุด จากสถิติในปี 2567 มีกระทู้ถามรัฐมนตรีจำนวน 10 ครั้ง รัฐมนตรีไปตอบถึง 9 ครั้ง ขอเลื่อนตอบเพียง 1 ครั้ง เพราะติดงานที่ จ.อุดรธานี ที่นัดไว้ก่อนแล้ว และล่าสุดในเดือน ม.ค. 68 นายเซียยื่นกระทู้สด แต่รัฐมนตรีติดภารกิจจึงได้ขอเลื่อนออกไปก่อน เช่นนี้นายเซียจึงไม่พอใจออกมาโวยวายตั้งคำถามและกล่าวหารัฐมนตรีผ่านสื่อโซเชียล เรื่องแบบนี้ประชาชนควรรู้บ้างว่าผู้แทนที่ไม่ได้เรื่องนั้นคือใคร
โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า โครงการกระทรวงแรงงานพบประชาชน เป็นโครงการที่กระทรวงแรงงานริเริ่มขึ้นเพื่อนำภารกิจด้านแรงงานเชิงรุกไปให้บริการกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตั้งเป้าจัดหมุนเวียนไปทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วที่ จ.สงขลา และ จ.พัทลุง โดยสมัยที่นายพิพัฒน์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็ได้ผลักดันแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) เพื่อยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานสากล ตามหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก และเชื่อมโยงการพัฒนากับระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) ซึ่งทำให้เกิดการจ้างงานด้านการท่องเที่ยวและบริการเป็นจำนวนมาก
“ปัจจุบันรัฐบาลกำลังขับเคลื่อน EEC ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ (Semiconductors) ซึ่ง 5 ปีนับจากนี้ เราจะต้องใช้แรงงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านนี้ไม่น้อยกว่า 500,000 ตำแหน่ง และกระทรวงแรงงานได้จัดทำ MOU กับกระทรวง อว. และกระทรวงมหาดไทย เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่แก่แรงงานไม่น้อยกว่า 250,000 คน ส่วนที่เหลือเราจะทำงานร่วมกับสถานประกอบการที่มีความถนัดเพื่อเร่งผลิตแรงงานที่มีความรู้และทักษะสมัยใหม่จนครบเป้าหมาย” นายภูมิพัฒน์ กล่าว
—————————————
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
